ข้อระเบียบสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
ว่าด้วยค่าใช้จ่าย พ.ศ. ๒๕๖๓

เพื่อให้การดำเนินงานสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามข้อ ๑,๒,๓,๔,๕,๖ แห่ง ข้อบังคับสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทยพุทธศักราช ๒๕๖๒ ประกอบกับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ วันที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๒ ให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อระเบียบสมาคม นายกสมาคมฯ จึงร่างข้อระเบียบเพื่อขอมติเห็นชอบจากคณะกรรมการและสมาชิกสมาคม ในการประชุมวิสามัญใหญ่วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ หากที่ประชุมเห็นชอบนายกลงนามและประกาศใช้ต่อไป ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “สมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่าย พ.ศ.๒๕๖๓”

สมาคม หมายถึง สมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย

ที่ปรึกษา หมายถึง บุคคลที่สมาคมได้แต่งตั้งเป็นทางการ หรือที่สมาคมได้เชิญมาเป็นครั้ง

คราวตามความเหมาะสม

อุปนายกสมาคม รองนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ เหรัญญิก กรรมการหรืออนุกรรมการ หมายถึงบุคคลที่นายกสมาคม ได้แต่งตั้งเป็นทางการ หรือที่สมาคมได้เชิญมาเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม

อนุกรรมการ สมาชิกหรือบุคคลภายนอก หมายถึง บุคคลที่สมาคมได้แต่งตั้งเป็นทางการหรือที่สมาคมได้เชิญมาเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม

ข้อ ๒ ให้ใช้ระเบียบนี้ตั้งแต่วันที่ นายกสมาคมได้ลงนามและประกาศใช้ เป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบอื่นหรือคำสั่งอื่นใดที่ขัดแย้งกับระเบียบนี้ และให้ใช้ระเบียบนี้แทน

ข้อ ๔ ให้สมาคมจัดจ้างพนักงานเพื่อการดำเนินงานด้านธุรการๆ ได้ตามความเหมาะของตำแหน่งงานรวมทั้งค่าจ้างเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ ตามกฎหมาย

ข้อ ๕ รองนายกสมาคม ที่ปรึกษา อุปนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ เหรัญญิก กรรมการหรืออนุกรรมการ สมาชิกหรือบุคคลภายนอกที่นายกสมาคมมอบหมายให้ช่วยปฏิบัติงาน ในการเข้าเวรรับเรื่องร้องทุกข์ หรือออกไปปฏิบัติงานรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์นอกสถานที่ หรือการออกไปแสวงหาข้อเท็จจริงในเรื่องที่รับร้องเรียนร้องทุกข์ ตามคำสั่งนายกสมาคม หากปฏิบัติงานในสำนักงานน้อยกว่า ๘ วัน จะได้รับค่าตอบแทนตามจำนวนวันที่ปฏิบัติงาน หรือหากปฏิบัติงานในสำนักงานหรือนอกสำนักงานมากกว่า ๘ วัน จะได้รับค่าตอบแทนตามจำนวนวันที่ปฏิบัติงานจริง

ข้อ ๖ ในการประชุมกรรมการบริหารสมาคมแต่ละครั้ง ให้ประธานและที่ปรึกษาได้รับค่าเบี้ยประชุม๒,๒๐๐ บาท รองนายกสมาคม กรรมการ คนละ ๑,๖๐๐ บาท

ในการประชุมคณะอนุกรรมการสมาคมแต่ละครั้ง ให้ประธานได้รับเบี้ยประชุม ๑,๖๐๐ บาท อนุกรรมการคนละ ๑,๒๐๐ บาท

ค่าพาหนะของ ประธาน ที่ปรึกษา กรรมการ และอนุกรรมการ สมาชิกหรือบุคคลอื่นที่เชิญให้เข้าร่วมประชุม ให้จ่ายใน ๘ ลักษณะดังนี้

๖.๑ ค่าพาหนะ ๕๐๐ บาท สำหรับผู้ที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

๖.๒ ค่าพาหนะ ๘๐๐ บาท สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดนอกเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในรัศมีระยะทางไม่เกิน ๘๐ กิโลเมตร จากที่ทำการสมาคม

๖.๓ ค่าพาหนะ ๑,๐๐๐ บาท สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด และนอกเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในรัศมีระยะทางเกินกว่า ๑๘๐ กิโลเมตร จากที่ทำการสมาคม

๖.๔ ค่าพาหนะ ๑,๒๐๐ บาท สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด และนอกเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในรัศมีระยะทางเกินกว่า ๒๘๐ กิโลเมตร จากที่ทำการสมาคม

๖.๕ ค่าพาหนะ ๑,๔๐๐ บาท สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด และนอกเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในรัศมีระยะทางเกินกว่า ๓๘๐ กิโลเมตร จากที่ทำการสมาคม

๖.๖ ค่าพาหนะ ๑,๖๐๐ บาท สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด และนอกเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในรัศมีระยะทางเกินกว่า ๔๘๐ กิโลเมตร จากที่ทำการสมาคม

๖.๗ ค่าพาหนะ ๑,๘๐๐ บาท สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด และนอกเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในรัศมีระยะทางเกินกว่า ๕๘๐ กิโลเมตร จากที่ทำการสมาคม

๖.๘ ค่าพาหนะ ๒,๐๐๐ บาท สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด และนอกเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในรัศมีระยะทางเกินกว่า ๖๘๐ กิโลเมตร จากที่ทำการสมาคม

ข้อ ๗ ที่ปรึกษา อุปนายกสมาคม รองนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ เหรัญญิก กรรมการหรือเจ้าหน้าทีสมาคม ในกรณีเสียชีวิตให้มีสวัสดิการช่วยเหลือเป็นจำนวนไม่เกิน ๔๕,๐๐๐ บาท

๗.๑ พ่อ แม่ ภรรยา บุตร ที่ปรึกษา อุปนายกสมาคม รองนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ เหรัญญิก กรรมการหรือเจ้าหน้าทีสมาคม เบิกเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลร่วมกันทั้งครอบครัวเป็นจำนวนไม่เกิน ๘,๐๐๐ บาท/ปี

๗.๒ พ่อ แม่ ภรรยา บุตร ที่ปรึกษา อุปนายกสมาคม รองนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ เหรัญญิก กรรมการหรือเจ้าหน้าที่สมาคม ในกรณีเสียชีวิตให้มีสวัสดิการช่วยเหลือรายละเป็นจำนวนไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

ข้อ ๘ สมาชิกสามัญตลอดชีพ ในกรณีเสียชีวิตให้มีสวัสดิการช่วยเหลือเป็นจำนวนไม่เกิน ๒๕,๐๐๐ บาท

๘.๑ สมาชิกสามัญ ในกรณีเสียชีวิตให้มีสวัสดิการช่วยเหลือเป็นจำนวนไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

ข้อ ๙ กรณีสมาชิกสมาคมฯ ที่เป็นผู้สื่อข่าว ที่สังกัดหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์และสื่อต่างๆ ในสังกัดสมาคมหรือสังกัดสื่ออื่นๆ สามารถขอรับเงินช่วยเหลือ(กรณีบาทเจ็บหรือเสียชีวิตจากการออกไปปฏิบัติหน้าจริง) โดยสมาคมจะพิจารณาจำนวนเงินช่วยเหลือเป็นกรณีไป

ข้อ ๑๐ ค่าเบี้ยเลี้ยงในการปฏิบัติงานโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติจากนายกสมาคม ให้ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงและต้องปฏิบัติงานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามวันและเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถไปปฏิบัติตามวันและเวลาดังกล่าวจะได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงที่ปฏิบัติงานจริงเท่านั้น ดังนี้

๑๐.๑ นายกสมาคม และที่ปรึกษา ให้ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ ๑,๒๐๐ บาท

๑๐.๒ อุปนายกสมาคม รองนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ เหรัญญิก กรรมการหรืออนุกรรมการ สมาชิกหรือบุคคลภายนอก ให้ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ ๖๐๐ บาท

๑๐.๓ เจ้าหน้าที่/ลูกจ้าง ให้ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยง วันละ ๔๐๐ บาท

ข้อ ๑๑ ค่าพาหนะในการเดินทาง ค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครปริมณฑลและต่างจังหวัดของนายสมาคม ที่ปรึกษา กรรมการ อนุกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่สมาคม ให้เบิกที่พัก ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่ายานพาหนะ ค่าใช้สอยและอื่นๆ ตามที่จ่ายจริงตามความเหมาะสมและประหยัดโดยความเห็นชอบของนายกสมาคม ยกเว้นค่าเบี้ยเลี้ยงให้เบิกได้ในอัตราดังนี้

๑๑.๑ นายกสมาคม วันละ ๑,๐๐๐ บาท

๑๑.๒ ที่ปรึกษา รองนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ กรรมการ อนุกรรมการ สมาชิกและบุคคลภายนอก วันละ ๖๐๐ บาท

๑๑.๓ เจ้าหน้าที่ วันละ ๔๐๐ บาท

การนับเวลาปฏิบัติงาน ให้นับเวลาออกจากบ้านพักหรือสำนักงานจนกลับถึงบ้านพักหรือสำนักงานโดยให้นับเวลา ๒๔ ชั่วโมง เป็นเวลา ๑ วัน เศษของวันเกินกว่า ๑๒ ชั่วโมง ให้นับเป็น ๑ วัน เศษตั้งแต่ ๖ ชั่วโมง แต่ไม่เกิน ๑๒ ชั่วโมง ให้นับเป็น ครึ่งวัน ไม่เกิน ๖ ชั่วโมง เบิกเบี้ยเลี้ยงไม่ได้

ข้อ ๑๒ ค่าเบี้ยเลี้ยงไปปฏิบัติงานต่างประเทศของนายกสมาคม ที่ปรึกษา อุปนายกสมาคม รองนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ เหรัญญิก กรรมการหรืออนุกรรมการ สมาชิกหรือบุคคลภายนอกและเจ้าหน้าที่ ให้เบิกได้ในอัตราดังนี้

๑๒.๑ อัตราค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง

(๑) นายกและที่ปรึกษา อัตราต่อวัน ๕,๕๐๐ บาท

(๒) อุปนายกสมาคม รองนายกสมาคม เลขาธิการ เลขานุการ เหรัญญิก กรรมการหรืออนุกรรมการ สมาชิกหรือบุคคลภายนอกและเจ้าหน้าที่ อัตราต่อวัน ๓,๕๐๐ บาท

๑๒.๒ การนับเวลาเบิกเบี้ยเลี้ยง

(๑) การปฏิบัติงานในประเทศ ให้นับเวลาออกจากบ้านพักหรือสำนักงานจนถึงสนามบินรวมกับเวลาออกจากสนามบิน (วันกลับ) จนถึงบ้านพักหรือสำนักงานแล้วนับเวลาปฏิบัติงานตามข้อ ๑๑

(๒) การปฏิบัติงานต่างประเทศ ให้นับเวลาเครื่องบินออกจนถึงเวลาที่เครื่องบินกลับถึงสนามบินในวันกลับ โดยนับเวลา ๒๔ ชั่วโมง เป็น ๑ วัน เศษของวันตั้งแต่ ๑๒ ชั่วโมงขึ้นไปให้นับเป็น ๑ วัน ส่วนเวลาตั้งแต่ ๖ ชั่วโมงขึ้นไป แต่ไม่ถึง ๑๒ ชั่วโมง ให้นับเป็นครึ่งวัน ไม่เกิน ๖ ชั่วโมงเบิกเบี้ยเลี้ยงไม่ได้

ข้อ ๑๓ กรณีการที่สมาคม มีการเปิดหลักสูตรการฝึกอบรมต่างๆ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้

๑๓.๑ หลักเกณฑ์การจ่ายสมนาคุณวิทยากร

(๑) ชั่วโมงการฝึกอบรมที่มีลักษณะเป็นการบรรยาย ให้จ่ายค่าสมนาคุณวิทยากร

ได้ไม่เกิน ๑ คน

(๒) ชั่วโมงการฝึกอบรมที่มีลักษณะเป็นการแบ่งกลุ่มฝึกภาคปฏิบัติ แบ่งกลุ่มอภิปรายหรือสัมมนาหรือแบ่งกลุ่มทำกิจกรรม ซึ่งได้กำหนดไว้ในโครงการหรือหลักสูตรการฝึกอบรมและจำเป็นจะต้องมีวิทยากรประจำกลุ่ม ให้จ่ายค่าสมนาคุณวิทยากร ๑ คนต่อผู้เข้ารับการฝึกอบรม ๑ กลุ่มกรณีการฝึกอบรมที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ วิทยากรประจำกลุ่ม ให้เป็นไปตามความเหมาะสมและประหยัด(เป็นกรณีไปในแต่ละครั้ง)

(๓) การนับชั่งโมงการฝึกอบรมให้นับเวลาที่กำหนดในตารางฝึกอบรม โดยไม่หักเวลาที่พักรับประทานอาหารว่างและเครื่องดื่ม แต่ละชั่วโมงการอบรมต้องมีกำหนดเวลาการฝึกอบรมไม่น้อยกว่าห้าสิบนาที กรณีกำหนดเวลาการฝึกอบรมไม่ถึงห้าสิบนาที แต่ไม่น้อยกว่ายี่สิบห้านาทีให้เบิกจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรได้ไม่เกินกึ่งหนึ่ง

๑๓.๒ อัตราค่าตอบแทนของวิทยากร

(๑) วิทยากรได้รับหนังสือเชิญจากสมาคมให้เป็นผู้บรรยายหรืออภิปรายให้ได้รับค่าตอบแทน ๒,๐๐๐ บาท/คน/ชั่วโมง

(๒) วิทยากรที่ได้รับหนังสือเชิญจากสมาคมให้เป็นวิทยากรประจำกลุ่มในข้อ (๑) ให้ได้รับค่าตอบแทน ๑,๒๐๐ บาท/คน/ชั่วโมง

(๓) วิทยากรผู้ช่วยที่ช่วยเหลือวิทยากรตามข้อ (๑) หรือ (๒) ให้ได้รับค่าตอบแทนตาความเห็นชอบของนายกสมาคม

(๔) ให้สมาคมหักค่าตอบแทนของวิทยากรร้อยละ ๑๐ เป็นบำรุงสมาคม

(๕) หากหลักสูตรใดจำนวนผู้เข้ารับการอบรมต่ำกว่าเป้าหมายที่สมาคมกำหนดให้อยู่ในดุลพินิจของนายกสมาคมที่จะพิจารณาค่าตอบแทนของวิทยากรได้ตามความเหมาะสม

ข้อ ๑๔ ค่าเบี้ยเลี้ยงกรรมการหรืออนุกรรมการเฉพาะผู้ที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคมให้เป็นผู้รับผิดชอบโครงการจัดฝึกอบรม การประชุมสัมมนา หรือที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น ให้ได้รับเบี้ยเลี้ยงในวันที่มีการฝึกอบรมประชุมสัมมนา ดังนี้

๑๔.๑ หัวหน้าโครงการวันละ ๑,๕๐๐ บาท

๑๔.๒ กรรมการ/อนุกรรมการ ที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคมให้มาช่วยปฏิบัติงานในการจัดฝึกอบรม/ประชุมสัมมนา วันละ ๑,๐๐๐ บาท

๑๔.๓ เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคมให้มาช่วยปฏิบัติงานในงานจัดฝึกอบรม/ประชุมสัมมนา/ประชุมกรรมการ วันธรรมดาวันละ ๔๐๐ บาท วันเสาร์-อาทิตย์วันละ ๖๐๐ บาท

ข้อ ๑๕ ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ค่าครุภัณฑ์ ให้เบิกจ่ายได้ตามที่จ่ายจริง เหมาะสมและประหยัด

ข้อ ๑๖ การที่ กรรมการ อนุกรรมการหรือบุคคลภายภายนอก ขอใช้ชื่อสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย (เป็นลายลักษณ์อักษร) เพื่อไปจัดงานสาธารณกุศลต่างๆ การจัดงานหาทุนหรือการจัดอบรมหลักสูตรต่างๆ เมื่อการจัดงานดำเนินการเสร็จให้จ่ายเงินแก่สมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย ร้อยละ ๑๐ ของกำไรที่ได้รับ หรือตามความเหมาะสมของกำไรขาดทุนของงานตามแต่กรณีไป ทั้งนี้จะต้องนำเสนอข้อมูลรูปแบบการจัดงานดังกล่าวให้นายกสมาคมพิจารณาให้ความเห็นชอบอนุมัติ ก่อนที่จะดำเนินการได้

ข้อ ๑๗ การอนุมัติค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่ได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้หรือค่าใช้จ่ายซึ่งเกินกว่าอัตราที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ใช้เป็นระเบียบการเงินกระทรวงการคลังเป็นแนวทางในการพิจารณาโดยอนุโลมทั้งนี้ นายสมาคมเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุมัติเป็นกรณีๆ แล้วแจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารทราบ

นำเสนอแก้ไขเพิ่มเติมข้อระเบียบสมาคม โดย ดร.ชยันต์พิสิฐ สมานสวน นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทยเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ในการประชุมสามัญ โดยที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบด้วยเสียงข้างมาก

หมายเหตุ ประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อ นายกสมาคมฯ ได้ลงนามและประกาศใช้